ลำดับที่
|
ปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา
กรุงเทพมหานคร
5179
|
ชื่อผลงานวิจัย
|
ปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร
|
หัวข้อ(Eng)
|
Problems of Physical
Education Teaching in Primary Schools Under the Office of Bangkik
Metropolitan Primary Education
|
คำสำคัญ(keyword)
|
ปัญหาการสอนพลศึกษา
ประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ปี
|
ชื่อผู้วิจัย
|
นางสาวนฤมล
|
ชื่อผู้วิจัย(Eng)
|
สุริยะ Ms. Narumon Suriya
|
การศึกษา
|
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาพลศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
|
ช่วงระยะเวลาที่ทำวิจัย(duration)
|
ทำวิจัยเสร็จปี 2544
|
ประเภท
|
วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
|
สถานที่จัดเก็บผลงาน
|
สำนักหอสมุด
วิทยาเขตบางเขน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
|
ประวัติความเป็นมา(history)
|
การศึกษานับเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการสร้างความเจริญก้าวหน้าของสังคมและประเทศชาติ
เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อการพัฒนาบุคคลของประเทศให้เป็นผู้ที่รู้จักคิด
รู้จักทำ รู้จักปัญหา และวิชาการแก้ไข
ตลอดจนสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสิ้นเปลืองน้อยที่สุด
การศึกษาเป็นกระบวนการในการเสริมสร้างบุคคลให้มีลักษณะที่พึงประสงค์ดังกล่าว
ดังนั้น การพลศึกษาจึงเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาชาติ ที่มีการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
ซึ่งการเรียนการสอนจะสำเร็จได้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายประการ เช่น งบประมาณ
สถานที่ อุปกรณ์ กระบวนการเรียนการสอน หลักสูตร จุดมุ่งหมาย-การสอน
และที่สำคัญที่สุดคือ
ครูพลศึกษาจะต้องเป็นผู้นำและผู้ดำเนินการให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้นักเรียนได้เกิดพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
สติปัญญาและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป
พลศึกษาเป็นวิชาที่มีความสำคัญ และมีความจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ ทั้งนี้ เพราะธรรมชาติของร่างกายต้องการการเคลื่อนไหวเพื่อการเจริญเติบโน และรักษาไว้ซึ่งสุขภาพ ในสมัยก่อนมนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตอยู่รอด ประกอบกับไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ช่วยทุ่นแรงจึงทำให้คนในสมัยนั้นมีการออกกำลังกายเพื่อสนองความต้องการของร่างกาย ซึ่งแตกต่างกับในสมัยปัจจุบัน ซึ่งมีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนส่วนมากไม่มีโอกาสได้ออกกำลังกายเท่าที่ควร ดังนั้น เพื่อเป็นการสนอบความต้องการของร่างกาย และแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการขาดการออกกำลังกาย จึงจัดให้มีวิชาพลศึกษาขึ้น (กรมวิชาการ, 2533 : 1) เนื่องจากกระบวนการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาเป็นผู้ที่ใกล้ชิด และรู้จักกับนักเรียนมากกว่าครูที่สอนวิชาอื่น ๆ ดังนั้น ในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และปลูกฝังพื้นฐานทางด้านกีฬา เพื่อที่จะทำให้เป็นพลเมืองที่ดี มีสุขภาพสมบูรณ์ ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาควรพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่ สำอาง พ่วงบุตร (2525 : 34) ได้กล่าวไว้ว่าในเรื่องความสำคัญของครูพลศึกษาต่อวิชาชีพว่า ครูพลศึกษาจะต้องปรับปรุงคุณภาพของตนให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ให้หมดไป ครูพลศึกษาต้องปรับปรุงทางด้านวิชาการให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้านการสอนก็ควรปรับปรุงการสอนให้มีประสิทธิภาพ ส่วนด้านบุคลิกลักษณะ เพื่อสร้างศรัทธาต่อผู้เรียน จะต้องปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ด้านคุณธรรม ความประพฤติ ต้องประพฤติตนให้เหมาะสม มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ไม่เสเพล ไม่ประพฤติในทางเสื่อมเสียทางด้านอบายมุขต่าง ๆ และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ จะเห็นได้ว่า ความมุ่งหมายของการสอนพลศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา ต้องการให้นักเรียนได้พัฒนาการทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ให้เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการทำงาน ประกอบกิจการต่าง ๆ ดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข ช่วยเพิ่มพูนสมรรถภาพทางกาย และกำลังคนในการพัฒนาประเทศโดยอาศัยการศึกษาทางด้านพลศึกษา วิชาพลศึกษาจึงจัดได้เป็นวิชาบังคับ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะว่านักเรียนที่มีสุขภาพดีจะมีความคิดอ่านและมีสมองจดจำได้ดีกว่านักเรียนที่มีสุขภาพไม่ดี สุขภาพเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการศึกษา ปรัชญาเมธีกรีกสองท่าน คือ Plato และ Aristotle ก็มีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า “ก่อนที่จะให้การศึกษาอื่น ๆ ควรให้เด็กมีสุขภาพดีเสียก่อน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในระดับประถมศึกษา นับว่าเป็นการศึกษาที่มุ่งปูพื้นฐานทางการศึกษาให้แก่เด็กในระยะแรก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยได้จัดให้มีการสอนพลศึกษาในชั้นประถมศึกษาตั้งแต่ พ.ศ. 2430 แล้วก็ตาม การพลศึกษาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งด้านผลผลิต (product) คือ ตัวนักเรียน และโครงสร้างการจัดการเรียนการสอน (process) ต่าง ๆ เช่น จากการวิจัยปัญหาการจัดการสอนพลศึกษาของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ขาดครูที่มีวุฒิทางพลศึกษา โรงเรียนส่วนมากขาดอุปกรณ์การสอนพลศึกษาทุกชนิด เท่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน และมีสภาพไม่ดี นอกจากนั้น ผู้บริหารไม่เข้าใจและไม่ให้ความสนับสนุนทางด้านนี้เท่าที่ควร (ปิยวรรณ, 2521, ก) ซึ่งถ้ามีปัญหาทางการเรียนการสอนแล้วจะทำให้เกิดผลเสีย มีความสำคัญมากกับเด็กประถมศึกษาที่จะเป็นเยาวชนของประเทศต่อไป และถ้าเราสามารถรู้ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาได้ก็จะเกิดผลดีต่อการศึกษาของชาติในการผลิตทรัพยากรที่มีคุณภาพ การจัดการเรียนการสอนพลศึกษาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดีนั้น จำเป็นต้องจัดให้เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งได้แก่ วุฒิครูผู้สอน อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเพียงพอ ตลอดจนการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ ถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดทำให้การดำเนินการสอนไม่ดีเท่าที่ควร ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร เพราะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในระดับนี้ กล่าวคือ เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาขั้นนี้แล้ว ควรมีความรู้ ทักษะ และทัศนคติทางพลศึกษา สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นพื้นฐานของการศึกษาทางด้านอื่น ๆ หรือทางด้านพลศึกษาอีกต่อไป |
แนวคิด(concept)
|
1. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องทางพลศึกษาระดับประถมศึกษา
2. หลักสูตรพลศึกษาระดับประถมศึกษา 3. ลักษณะและการจัดกิจกรรมพลศึกษาที่จัดสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 4. ปัจจัยและสภาพการณ์ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน 5. ทฤษฎีและหลักการสร้างแบบประเมินค่า |
วัตถุประสงค์(objective)
|
เพื่อศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร
|
แนวทางการปฏิบัติ(regulation)
|
การวิจัยเชิงสำรวจ
|
กลุ่มตัวอย่าง(sample)
|
กลุ่มประชากร ได้แก่
อาจารย์ผู้สอนวิชาพลศึกษา ที่สอนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2543 จำนวน 76 จาก 38 โรงเรียน
กลุ่มตัวอย่าง - |
ตัวแปร(variable)
|
ตัวแปรอิสระ ได้แก่
ปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา
กรุงเทพมหานคร
ตัวแปรตาม - |
คำนิยาม(defination)
|
ปัญหาการสอนพลศึกษา
หมายถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการเรียนการสอน
โดยวัดจากความคิดเห็นของกลุ่มประชากร ด้านจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน
ด้านวิธีการสอนกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร ด้านอุปกรณ์
สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา
ด้านครูผู้สอน และด้านนักเรียน
ครูผู้สอนพลศึกษา หมายถึง ครูผู้ปฏิบัติการสอนวิชาพลศึกษา ทั้งที่มีวุฒิทางพลศึกษา และไม่มีวุฒิทางพลศึกษา ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร หมายถึง สถานที่ทำการสอนนักเรียนโดยได้รับอนุญาตจากรัฐตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งหมด 38 โรงเรียน นักเรียน หมายถึง ผู้ที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 |
เครื่องมือ(tool)
|
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้
เป็นแบบสอบถาม จำนวน 1 ชุด
สำหรับครูผู้สอนวิชาพลศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร |
การรวบรวมข้อมูล(gathering)
|
ผู้วิจัยทำหนังสือขอความร่วมมือในการทำวิจัยจากภาควิชาพลศึกษา
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ไปยังสำนักงานอัยการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร โดยส่งแบบสอบถามไปพร้อมกับติดแสตมป์
เพื่อส่งแบบสอบถามมายังผู้วิจัยทางไปรษณีย์
ข้อมูลบางส่วนที่กลุ่มประชากรไม่ได้ตอบกลับมายังผู้วิจัย ผู้วิจัยได้เดินทางไปเก็บข้อมูลดังกล่าวที่โรงเรียนด้วยตนเอง
และในบางโรงเรียนผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลทางโทรศัพท์จากกลุ่มประชากรและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
จึงได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาทั้งสิ้น 76 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 ของแบบสอบถามทั้งหมด
|
การวิเคราะห์(analysis)
|
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
|
ข้อสรุป(summary)
|
ปัญหาเกี่ยวกับการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ทั้ง 6 ด้าน ที่พบ ดังนี้ 1) ด้านจุดมุ่งหมายของการสอนพลศึกษา
พบว่าอยู่ในระดับปานกลาง 2) ด้านวิธีการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร พบว่า อยู่ในระดับน้อย 3)
ด้านอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่า
อยู่ในระดับปานกลาง 4) ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาพบว่า
อยู่ในระดับน้อย 5) ด้านครูผู้สอน พบว่าอยู่ในระดับน้อย
และ 6) ด้านนักเรียน พบว่า อยู่ในระดับน้อย
|
ข้อเสนอแนะ(suggestion)
|
ข้อเสนอแนะทั่วไป
1. ปัญหาด้านจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน ครูพลศึกษาควรศึกษาจุดมุ่งหมายของหลักสูตรให้เข้าใจ เพื่อที่จะเลือกจัดกิจกรรมและวิธีการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาให้มากที่สุด นอกจากนี้ ครูยังต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมขององค์ประกอบที่สำคัญ ๆ เช่น ความสนใจและความถนัดของนักเรียน ตลอดจนการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้เรียน จึงจะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุก 2. ปัญหาด้านวิธีการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร ครูควรศึกษาวิธีการสอนหลาย ๆ วิธี เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมหลักสูตร ให้หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือกกิจกรรมที่ตนเองสนใจ จะทำให้นักเรียนได้รับประโยชน์จากการเรียนสูงสุด 3. ปัญหาด้านอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนควรจัดสรรงบปาณเพื่อที่จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางพลศึกษาให้เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน และควรมีการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ 4. ปัญหาด้านการวัดและการประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาควรวัดให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์การเรียนการสอน โดยมีการวัดทั้งก่อนเรียน ระหว่างการเรียน และหลังการเรียนการสอน เพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการของผู้เรียนเป็นระยะ ๆ และหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป 5. ปัญหาด้านครูผู้สอน ครูพลศึกษาควรมีความพร้อม มีแนวคิด และวิธีการสอนใหม่ ๆ มีความชำนาญในการสอน ครูพลศึกษาควรให้ความรัก ความสนใจ การช่วยเหลือแก่นักเรียนในการเรียน และกิจกรรมทางพลศึกษา ควรมีการจัดการอบรมครูผู้สอนพลศึกษาให้มีประสิทธิภาพใหม่ ๆ อยู่เสมอ 6. ปัญหาด้านนักเรียน นักเรียนควรมีความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ในการเรียนพลศึกษา และตระหนักถึงความสำคัญของวิชาพลศึกษาที่มีผลต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป ควรมีการศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาในวิชาพลศึกษาในสังกัดอื่น ๆ เพื่อจะได้ทราบปัญหาและวิธีการแก้ไข ที่ตรงกับสภาพความเป็นจริงและสามารถนำไปใช้ได้ โดยใช้กลุ่มประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างหลายกลุ่ม เช่น ครูผู้สอนวิชาพลศึกษา นักเรียน และผู้บริหารโรงเรียน เป็นต้น |
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
บทวิจัยปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร
บทวิจัยปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร
ลำดับที่ | 5179 |
---|---|
ชื่อผลงานวิจัย | ปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร |
หัวข้อ(Eng) | Problems of Physical Education Teaching in Primary Schools Under the Office of Bangkik Metropolitan Primary Education |
คำสำคัญ(keyword) | ปัญหาการสอนพลศึกษา ประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ปี |
ชื่อผู้วิจัย | นางสาวนฤมล |
ชื่อผู้วิจัย(Eng) | สุริยะ Ms. Narumon Suriya |
การศึกษา | ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
ช่วงระยะเวลาที่ทำวิจัย(duration) | ทำวิจัยเสร็จปี 2544 |
ประเภท | วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
สถานที่จัดเก็บผลงาน | สำนักหอสมุด วิทยาเขตบางเขน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
ประวัติความเป็นมา(history) | การศึกษานับเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการสร้างความเจริญก้าวหน้าของสังคมและประเทศชาติ เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อการพัฒนาบุคคลของประเทศให้เป็นผู้ที่รู้จักคิด รู้จักทำ รู้จักปัญหา และวิชาการแก้ไข ตลอดจนสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสิ้นเปลืองน้อยที่สุด การศึกษาเป็นกระบวนการในการเสริมสร้างบุคคลให้มีลักษณะที่พึงประสงค์ดังกล่าว ดังนั้น การพลศึกษาจึงเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาชาติ ที่มีการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน ซึ่งการเรียนการสอนจะสำเร็จได้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายประการ เช่น งบประมาณ สถานที่ อุปกรณ์ กระบวนการเรียนการสอน หลักสูตร จุดมุ่งหมาย-การสอน และที่สำคัญที่สุดคือ ครูพลศึกษาจะต้องเป็นผู้นำและผู้ดำเนินการให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักเรียนได้เกิดพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญาและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป พลศึกษาเป็นวิชาที่มีความสำคัญ และมีความจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ ทั้งนี้ เพราะธรรมชาติของร่างกายต้องการการเคลื่อนไหวเพื่อการเจริญเติบโน และรักษาไว้ซึ่งสุขภาพ ในสมัยก่อนมนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตอยู่รอด ประกอบกับไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ช่วยทุ่นแรงจึงทำให้คนในสมัยนั้นมีการออกกำลังกายเพื่อสนองความต้องการของร่างกาย ซึ่งแตกต่างกับในสมัยปัจจุบัน ซึ่งมีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนส่วนมากไม่มีโอกาสได้ออกกำลังกายเท่าที่ควร ดังนั้น เพื่อเป็นการสนอบความต้องการของร่างกาย และแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการขาดการออกกำลังกาย จึงจัดให้มีวิชาพลศึกษาขึ้น (กรมวิชาการ, 2533 : 1) เนื่องจากกระบวนการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาเป็นผู้ที่ใกล้ชิด และรู้จักกับนักเรียนมากกว่าครูที่สอนวิชาอื่น ๆ ดังนั้น ในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และปลูกฝังพื้นฐานทางด้านกีฬา เพื่อที่จะทำให้เป็นพลเมืองที่ดี มีสุขภาพสมบูรณ์ ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาควรพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่ สำอาง พ่วงบุตร (2525 : 34) ได้กล่าวไว้ว่าในเรื่องความสำคัญของครูพลศึกษาต่อวิชาชีพว่า ครูพลศึกษาจะต้องปรับปรุงคุณภาพของตนให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ให้หมดไป ครูพลศึกษาต้องปรับปรุงทางด้านวิชาการให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้านการสอนก็ควรปรับปรุงการสอนให้มีประสิทธิภาพ ส่วนด้านบุคลิกลักษณะ เพื่อสร้างศรัทธาต่อผู้เรียน จะต้องปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ด้านคุณธรรม ความประพฤติ ต้องประพฤติตนให้เหมาะสม มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ไม่เสเพล ไม่ประพฤติในทางเสื่อมเสียทางด้านอบายมุขต่าง ๆ และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ จะเห็นได้ว่า ความมุ่งหมายของการสอนพลศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา ต้องการให้นักเรียนได้พัฒนาการทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ให้เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการทำงาน ประกอบกิจการต่าง ๆ ดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข ช่วยเพิ่มพูนสมรรถภาพทางกาย และกำลังคนในการพัฒนาประเทศโดยอาศัยการศึกษาทางด้านพลศึกษา วิชาพลศึกษาจึงจัดได้เป็นวิชาบังคับ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะว่านักเรียนที่มีสุขภาพดีจะมีความคิดอ่านและมีสมองจดจำได้ดีกว่านักเรียนที่มีสุขภาพไม่ดี สุขภาพเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการศึกษา ปรัชญาเมธีกรีกสองท่าน คือ Plato และ Aristotle ก็มีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า “ก่อนที่จะให้การศึกษาอื่น ๆ ควรให้เด็กมีสุขภาพดีเสียก่อน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในระดับประถมศึกษา นับว่าเป็นการศึกษาที่มุ่งปูพื้นฐานทางการศึกษาให้แก่เด็กในระยะแรก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยได้จัดให้มีการสอนพลศึกษาในชั้นประถมศึกษาตั้งแต่ พ.ศ. 2430 แล้วก็ตาม การพลศึกษาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งด้านผลผลิต (product) คือ ตัวนักเรียน และโครงสร้างการจัดการเรียนการสอน (process) ต่าง ๆ เช่น จากการวิจัยปัญหาการจัดการสอนพลศึกษาของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ขาดครูที่มีวุฒิทางพลศึกษา โรงเรียนส่วนมากขาดอุปกรณ์การสอนพลศึกษาทุกชนิด เท่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน และมีสภาพไม่ดี นอกจากนั้น ผู้บริหารไม่เข้าใจและไม่ให้ความสนับสนุนทางด้านนี้เท่าที่ควร (ปิยวรรณ, 2521, ก) ซึ่งถ้ามีปัญหาทางการเรียนการสอนแล้วจะทำให้เกิดผลเสีย มีความสำคัญมากกับเด็กประถมศึกษาที่จะเป็นเยาวชนของประเทศต่อไป และถ้าเราสามารถรู้ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาได้ก็จะเกิดผลดีต่อการศึกษาของชาติในการผลิตทรัพยากรที่มีคุณภาพ การจัดการเรียนการสอนพลศึกษาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดีนั้น จำเป็นต้องจัดให้เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งได้แก่ วุฒิครูผู้สอน อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเพียงพอ ตลอดจนการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ ถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดทำให้การดำเนินการสอนไม่ดีเท่าที่ควร ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร เพราะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในระดับนี้ กล่าวคือ เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาขั้นนี้แล้ว ควรมีความรู้ ทักษะ และทัศนคติทางพลศึกษา สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นพื้นฐานของการศึกษาทางด้านอื่น ๆ หรือทางด้านพลศึกษาอีกต่อไป |
แนวคิด(concept) | 1. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องทางพลศึกษาระดับประถมศึกษา 2. หลักสูตรพลศึกษาระดับประถมศึกษา 3. ลักษณะและการจัดกิจกรรมพลศึกษาที่จัดสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 4. ปัจจัยและสภาพการณ์ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน 5. ทฤษฎีและหลักการสร้างแบบประเมินค่า |
วัตถุประสงค์(objective) | เพื่อศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร |
แนวทางการปฏิบัติ(regulation) | การวิจัยเชิงสำรวจ |
กลุ่มตัวอย่าง(sample) | กลุ่มประชากร ได้แก่ อาจารย์ผู้สอนวิชาพลศึกษา ที่สอนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 จำนวน 76 จาก 38 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง - |
ตัวแปร(variable) | ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ปัญหาการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ตัวแปรตาม - |
คำนิยาม(defination) | ปัญหาการสอนพลศึกษา หมายถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการเรียนการสอน โดยวัดจากความคิดเห็นของกลุ่มประชากร ด้านจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน ด้านวิธีการสอนกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร ด้านอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ด้านครูผู้สอน และด้านนักเรียน ครูผู้สอนพลศึกษา หมายถึง ครูผู้ปฏิบัติการสอนวิชาพลศึกษา ทั้งที่มีวุฒิทางพลศึกษา และไม่มีวุฒิทางพลศึกษา ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร หมายถึง สถานที่ทำการสอนนักเรียนโดยได้รับอนุญาตจากรัฐตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งหมด 38 โรงเรียน นักเรียน หมายถึง ผู้ที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 |
เครื่องมือ(tool) | เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม จำนวน 1 ชุด สำหรับครูผู้สอนวิชาพลศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร |
การรวบรวมข้อมูล(gathering) | ผู้วิจัยทำหนังสือขอความร่วมมือในการทำวิจัยจากภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปยังสำนักงานอัยการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร โดยส่งแบบสอบถามไปพร้อมกับติดแสตมป์ เพื่อส่งแบบสอบถามมายังผู้วิจัยทางไปรษณีย์ ข้อมูลบางส่วนที่กลุ่มประชากรไม่ได้ตอบกลับมายังผู้วิจัย ผู้วิจัยได้เดินทางไปเก็บข้อมูลดังกล่าวที่โรงเรียนด้วยตนเอง และในบางโรงเรียนผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลทางโทรศัพท์จากกลุ่มประชากรและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาทั้งสิ้น 76 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 ของแบบสอบถามทั้งหมด |
การวิเคราะห์(analysis) | วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
ข้อสรุป(summary) | ปัญหาเกี่ยวกับการสอนพลศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ทั้ง 6 ด้าน ที่พบ ดังนี้ 1) ด้านจุดมุ่งหมายของการสอนพลศึกษา พบว่าอยู่ในระดับปานกลาง 2) ด้านวิธีการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร พบว่า อยู่ในระดับน้อย 3) ด้านอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง 4) ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาพบว่า อยู่ในระดับน้อย 5) ด้านครูผู้สอน พบว่าอยู่ในระดับน้อย และ 6) ด้านนักเรียน พบว่า อยู่ในระดับน้อย |
ข้อเสนอแนะ(suggestion) | ข้อเสนอแนะทั่วไป 1. ปัญหาด้านจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน ครูพลศึกษาควรศึกษาจุดมุ่งหมายของหลักสูตรให้เข้าใจ เพื่อที่จะเลือกจัดกิจกรรมและวิธีการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาให้มากที่สุด นอกจากนี้ ครูยังต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมขององค์ประกอบที่สำคัญ ๆ เช่น ความสนใจและความถนัดของนักเรียน ตลอดจนการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้เรียน จึงจะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุก 2. ปัญหาด้านวิธีการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร ครูควรศึกษาวิธีการสอนหลาย ๆ วิธี เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมหลักสูตร ให้หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือกกิจกรรมที่ตนเองสนใจ จะทำให้นักเรียนได้รับประโยชน์จากการเรียนสูงสุด 3. ปัญหาด้านอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนควรจัดสรรงบปาณเพื่อที่จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางพลศึกษาให้เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน และควรมีการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ 4. ปัญหาด้านการวัดและการประเมินผลการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ครูพลศึกษาควรวัดให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์การเรียนการสอน โดยมีการวัดทั้งก่อนเรียน ระหว่างการเรียน และหลังการเรียนการสอน เพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการของผู้เรียนเป็นระยะ ๆ และหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป 5. ปัญหาด้านครูผู้สอน ครูพลศึกษาควรมีความพร้อม มีแนวคิด และวิธีการสอนใหม่ ๆ มีความชำนาญในการสอน ครูพลศึกษาควรให้ความรัก ความสนใจ การช่วยเหลือแก่นักเรียนในการเรียน และกิจกรรมทางพลศึกษา ควรมีการจัดการอบรมครูผู้สอนพลศึกษาให้มีประสิทธิภาพใหม่ ๆ อยู่เสมอ 6. ปัญหาด้านนักเรียน นักเรียนควรมีความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ในการเรียนพลศึกษา และตระหนักถึงความสำคัญของวิชาพลศึกษาที่มีผลต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป ควรมีการศึกษาปัญหาการสอนวิชาพลศึกษาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาในวิชาพลศึกษาในสังกัดอื่น ๆ เพื่อจะได้ทราบปัญหาและวิธีการแก้ไข ที่ตรงกับสภาพความเป็นจริงและสามารถนำไปใช้ได้ โดยใช้กลุ่มประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างหลายกลุ่ม เช่น ครูผู้สอนวิชาพลศึกษา นักเรียน และผู้บริหารโรงเรียน เป็นต้น |
ปี | 2544 |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)